นิยาม การเฝ้ าระวังและสอบสวนโรค (Patient Under Investigation : PUI) และ การตรวจทางห้องปฏิบตั ิ การ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 3 เมษายน 2563 https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/guidelines.php
การเฝ้ าระวังสอบสวน การตรวจทางห้องปฏิบตั ิ และการดูแลรักษาสาหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (3 เมษายน 2563) กรณี อื่นๆ ขึน้ อยู่กบั ข้อกาหนดของแต่ ละกองทุน
ผู้รบั บริการที่ได้รบั การตรวจทางห้องปฏิบตั ิ การ 3 กลุ่ม ดังนี้ ผู้สมั ผัสเสี่ยงสูง (High Risk Contact) สอบสวน โรค
ผู้ที่เข้าเกณฑ์ตามนิยามผู้ป่วยฯ ( PUI : Patient Under Investigation)
- สมาชิ กร่วมบ้านทุกคน - บุคลากรทางการแพทย์หรือสาธารณสุขที่สัมผัสใกล้ชิด ผู้ป่วย โดยไม่ได้สวม PPE ที่เหมาะสม - ผู้คลุกคลีใกล้ชิดผู้ป่วย อย่างชัดเจนโดยไม่สวมหน้ ากาก
ตรวจ / วินิจฉัย ตามดุลยพินิจของแพทย์ มีอาการที่จาเป็ นต้อง รักษาใน รพ. เช่น ปอดอักเสบ เหนื่ อย รับรักษาใน โรงพยาบาล ตามแนวทาง ที่กรมการแพทย์ กาหนด จาหน่ ายจาก รพ.
ไม่มีอาการ/ อาการเล็กน้ อย
ป้ องกัน
แจ้ งรายละเอียดอาการ การแยกกักที่บ้านและการสังเกตอาการ
เก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบตั ิ การ นับจาก วันที่สมั ผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 5 วันขึ้นไป
ให้ผู้ป่วยลงชื่อรับทราบ และยินยอมกลับบ้านเพื่ อ แยกกัก
ได้รบั ผลการตรวจทางห้องปฏิบตั ิ การ
ตรวจไม่พบเชื้อ แจ้ งผู้ป่วย ให้เฝ้ าระวังอาการและแยกกักที่บ้าน อย่างน้ อย 14 วันนับจากวันเริ่มป่ วย
ตรวจพบเชื้อ
ได้รบั ผลการตรวจทางห้องปฏิบตั ิ การ ตรวจไม่พบเชื้อ
ตรวจพบเชื้อ
แจ้ งผู้ป่วย
แจ้ งผู้ป่วย
ให้เฝ้ าระวังอาการและกักกันที่บ้านอย่าง น้ อย 14 วันนับจากวันสัมผัสผู้ป่วยครัง้ สุดท้าย กรณี มีอาการภายหลัง ให้ถือว่าเป็ น PUI
ให้เฝ้ าระวังอาการและแยกกัก ต่อเนื่ อง ตามแนวทางที่กาหนดในการ รักษาฯ
ผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์นิยามผู้ป่วยฯ (Non-PUI) ตรวจพบเชื้อ
ตรวจไม่พบเชื้อ
แจ้ งเจ้ าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อ ในพื้ นที่
แจ้ งผู้ป่วย
จัดรถไปรับผู้ป่วย แจ้ งผู้ป่วยเพื่ อทา การเข้ารักษาใน รพ.
จาหน่ ายจากรพ.
แนะนาให้ผู้ป่วย เฝ้ าระวังอาการ หลีกเลี่ยงที่ชมุ ชน และดูแลตัวเอง จนกว่าอาการ จะเป็ นปกติ
กรณี ไม่ เข้าเกณฑ์จะ จ่ ายค่าตรวจฯ เมื่อ พบเชื้อฯ
นิยามผู้ป่วยที่ต้องสอบสวนโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019(Patient Under Investigation : PUI) 3 เมษายน 2563 อาการและอาการแสดง กรณี ที่ 1 การเฝ้ าระวังที่ ด่านควบคุมโรคติดต่ อระหว่างประเทศ อุณหภูมิร่างกายตัง้ แต่ 37.3 องศาเซลเซี ยสขึ้นไป หรือ อาการของระบบทางเดิ น หายใจอย่างใดอย่ า งหนึ่ ง ดั ง ต่ อไปนี้ ไอ น้ า มู ก เจ็บ คอ หายใจเหนื่ อย หรื อ หายใจลาบาก กรณี ที่ 2 การเฝ้ าระวังในสถานพยาบาล กรณี ที่ 2.1 อุณหภูมิกายตัง้ แต่ 37.5 องศาเซลเซี ยสขึ้ นไป หรื อประวัติ มี ไ ข้ ร่ ว มกับ อาการ ของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ ง ดังต่ อไปนี้ ไอ น้ามูก เจ็บคอ หายใจ เหนื่ อย หรือหายใจลาบาก หรือ ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ
กรณี ที่ 2.2 ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ
ปัจจัยเสี่ยง
มีประวัติเดินทางไปยัง หรือ มาจากต่ างประเทศทุกเที่ ยวบิน ทุกช่ องทางระหว่างประเทศ ร่วมกับ การมีประวัติในช่ วงเวลา 14 วันก่อนวันเริ่มป่ วย อย่างใดอย่างหนึ่ งต่ อไปนี้ 1) มีประวัติเดินทางไปยัง หรือ มาจาก หรืออยู่อาศัยในพื้ นที่ เกิดโรคติดเชื้ อไวรัสโคโรนา 2019 2) ประกอบอาชี พที่ เกี่ยวข้องกับ นักท่ องเที่ ยว สถานที่ แออัด หรือติดต่ อกับคนจานวนมาก 3) ไปในสถานที่ ชุมนุมชน หรือ สถานที่ ที่มีการรวมกลุ่มคน เช่ น ตลาดนัดห้ าง สรรพสินค้ า สถานพยาบาล หรือ ขนส่งสาธารณะ 4) สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้ อไวรัสโคโรนา 2019 ร่วมกับ ข้อใดข้อหนึ่ งต่ อไปนี้ 1) หาสาเหตุไม่ได้ หรือ รักษาแล้วไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชัว่ โมง 2) มีอาการรุนแรง หรือ เสียชี วิตโดยหาสาเหตุไม่ได้ 3) ภาพถ่ายรังสีปอดเข้าได้ กบั โรคติดเชื้ อไวรัสโคโรนา 2019
กรณี ที่ 3 การเฝ้ าระวังในบุคลากรด้ านการแพทย์และสาธารณสุ ข อุณหภูมิกายตัง้ แต่ 37.5 องศาเซลเซี ยสขึ้นไป หรือประวัติมีไข้ หรือ อาการของ ทุกราย ระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ ง ดังต่ อไปนี้ ไอ น้ามูก เจ็บคอ หายใจ เหนื่ อย หรือหายใจลาบาก หรือ ปอดอักเสบ กรณี ที่ 4 การเฝ้ าระวังการป่ วยเป็ นกลุ่มก้ อน • กรณี เป็ นบุคลากรทางการแพทย์ ตัง้ แต่ 3 รายขึ้นไป ในแผนกเดี ยวกัน ในช่ วงสัปดาห์ กลุ่มก้อน (cluster) ของผู้มีอาการติดเชื้ อระบบทางเดิ นหายใจ ที่ ผลตรวจ rapid เดี ยวกัน (หากสถานพยาบาลขนาดเล็ก เช่ น คลินิก ใช้ เกณฑ์ 3 รายขึ้นไปใน test หรือ PCR ต่ อเชื้ อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ให้ ผลลบจากทุกรายที่ มีการส่งตรวจ สถานพยาบาลนัน้ ๆ)
ผังการส่งตัวอย่างจากผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้ าระวังและสอบสวนโรคติ ดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 กรมควบคุมโรค (3 เมษายน 2563) ในเขตกรุงเทพฯ แจ้ งผลการตรวจทาง พบเชื ้อ / ไม่พบเชื ้อ
การส่ งข้อมูล การส่ งตัวอย่าง
ไปรษณี ย ์ อิเลคทรอนิกส์
Lab ที่ ได้ รบั การประกาศจากกรมวิทย์ฯ สรุปไม่ได้
IC สป.คม.
ส่ ง ตัวอย่าง PUI
SAT DDC
➢ ตรวจสอบการลงทะเบียน ออกเลข หนังสือเพื่ อส่งตรวจทางห้ องปฏิ บัติการ
รพ. ทุกสังกัด
หากจาเป็ นให้ขอ ตัวอย่างใหม่
URI
▪ NPS+TS in VTM 1 ชุด
LRI
▪ NPS+TS in VTM 1 ชุด ▪ sputum in sterile container 1 กระปุก
กรณี มีข้อสงสัยให้ สอบถามตามระดับ รพ.
สสจ/กทม.
Operations DDC (061-663-9232) สป.คม. ส.อนามัย กทม./ รพ.
▪ ลงทะเบียนผู้ป่วยในเว็บไซต์ http://viral.ddc.moph.go.th/ncov-2019/login ระบบ จะออกรหัสฯ (SAT ID) เก็บตัวอย่ าง ▪ เก็บตัวอย่ าง
กรมควบคุมโรค รับผิดชอบค่ าตรวจ.ฯ กรณี PUI และ High Risk Contact บันทึกข้อมูลผลการตรวจ ทางห้องปฏิบัติการที่ http://viral.ddc.moph.go.t h/ncov-2019/login (พื้นที่กาหนดผู้บนั ทึกเอง)
อยู่ระหว่ างปรับปรุงโปรแกรม ลงและส่ งผลห้ องปฏิบตั ิ การ
สคร./สป.คม.
กรม
หมายเหตุ ▪ หนั งสื อส่ งตัวอย่ างสามารถดาวน์ โหลดได้จาก https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/guidelines.php ▪ สปคม./กรมคร. ตรวจสอบเกณฑ์ในการส่ ง และ หนั งสื อนาส่ ง และผลการตรวจ เพื่อสรุปค่าใช้ จ่ายทุ ก 1-2
ผังการส่งตัวอย่างจากผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้ าระวังและสอบสวนโรคติ ดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 กรมควบคุมโรค (3 เมษายน 2563) นอกเขต แจ้ งผลการตรวจทาง กรุงเทพฯ พบเชื ้อ / ไม่พบเชื ้อ การส่ งข้อมูล Lab ที่ ได้ รบั การประกาศจากกรมวิทย์ฯ สรุปไม่ได้
สคร. ส่ ง ตัวอย่าง PUI
การส่ งตัวอย่าง IC
➢ ตรวจสอบการลงทะเบียน ออกเลข หนังสือเพื่ อส่งตรวจทางห้ องปฏิ บัติการ
SAT DDC
สสจ. ➢ ลงทะเบียนผู้ป่วยในเว็บไซต์ http://viral.ddc.moph.go.th/ncov2019/login ระบบจะออกรหัสฯ (SAT ID) ให้สสจ.
รพ. ทุกสังกัด
ไปรษณี ย ์ อิเลคทรอนิกส์
หากจาเป็ นให้ขอ ตัวอย่างใหม่
Operations DDC (061-663-9232) สคร.
▪ แจ้งสสจ.เพื่ อลงทะเบียนและออกรหัสผู้ป่วย (code) ▪ เก็บตัวอย่าง
สสจ. / รพ.
กรมควบคุมโรค รับผิดชอบค่ าตรวจ.ฯ กรณี PUI และ High Risk Contact บันทึกข้อมูลผลการตรวจ ทางห้องปฏิบัติการที่ http://viral.ddc.moph.go.t h/ncov-2019/login (พื้นที่กาหนดผู้บนั ทึกเอง)
URI
▪ NPS+TS in VTM 1 ชุด
อยู่ระหว่ างปรับปรุงโปรแกรม ลงและส่ งผลห้ องปฏิบตั ิ การ
LRI
▪ NPS+TS in VTM 1 ชุด ▪ sputum in sterile container 1 กระปุก
หมายเหตุ ▪ หนั งสื อส่ งตัวอย่ างสามารถดาวน์ โหลดได้จาก https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/guidelines.php ▪ สคร. / กรมคร. ตรวจสอบเกณฑ์ในการส่ ง และ หนั งสื อนาส่ ง และผลการตรวจ เพื่อสรุปค่าใช้ จ่ายทุ ก 1-2 สัปดาห์
กรณี มีข้อสงสัยให้ สอบถามตามระดับ รพ.
สสจ/กทม.
สคร./สป.คม.
กรม
การรายงานผลจากห้องปฏิบตั ิ การ ห้องปฏิบตั ิ การทาการรายงานผลไปยัง ไปรษณี ยอ์ ิ เล็กทรอนิกส์ ดังนี้ 1) ผู้บญ ั ชาการศูนย์ปฏิบตั ิการภาวะฉุกเฉินฯ กรม คร. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร 2) กลุ่มสอบสวนฯ กองระบาดวิทยา 3) SAT กรมควบคุมโรค 4) สถาบันบาราศนราดูร (เฉพาะผู้ป่วยของสถาบันฯ) / สคร. / สปคม. 5) สสจ./รพ. กรณี แจ้งไว้ โดยส่งเฉพาะไปรษณี ยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ ของหน่ วยงานเท่านัน้ หมายเหตุ การประสานระหว่างห้องปฏิบตั ิการให้เป็ นไปตามแนวทางของ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
