จับตาไออาร์ดีเอ มาเลเซียกับความสาเร็จที่ใกล้แค่เอื้อม ไออาร์ดีเอ (IRDA : Iskandar Regional Development Authority) เป็นหน่วยงานเพื่อการ พัฒนาภูมิภาคอิสกันดาร์ (Iskandar) ที่นับเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษขนาดใหญ่ของมาเลเซีย ตั้งอยู่บน คาบสมุทรยะโฮร์ที่กั้นกลางระหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ โครงการนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 กรกฏาคม 2549 โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่จะผลักดันให้ อิส กัน ดาร์ เ ป็ น ดิน แดนที่ร องรั บ ความเจริญด้ านต่างๆ อาธิ การลงทุนในสิ น ค้า เชิงนวั ตกรรมและ อุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ การเงินการธนาคาร อาหารและสุขภาพ อาหารปลอดสารพิษ การผลิตที่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การศึกษา ภาพยนต์และมัลติมีเดีย การแพทย์ การคมนาคมและโลจิสติกส์ ปิโตรเคมีและพลังงาน เทคโนโลยีสารสนเทศ ช๊อปปิ้งและการท่องเที่ยว โครงการยักษ์ใหญ่นี้ถือเป็นการประกาศให้โลกรับรู้ว่า มาเลเซียกาลังเดินหน้าสร้างประเทศที่ มั่งคั่งมั่นคง โดยรัฐบาลมาเลเซียได้ทุ่มงบประมาณจานวนมากสาหรับโครงสร้างสาธารณูปโภคของเขต เศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้กว่า 4,000 ล้านริงกิต (1,200 ล้านดอลลาร์) คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการลงทุน กว่า 370,000 ล้านริงกิตภายในปี 2568 และวันนี้ ไออาร์ดีเอ ไม่ใช่เพียงแค่การขายฝัน หากแต่เกิดจากการเตรียมความพร้อมและ พัฒนาอย่างเป็นระบบจนทาให้เขตเศรษฐกิจพิเศษขนาดใหญ่ของมาเลเซียแห่งนี้เจริญเติบโตอย่างครบ วงจร ซึ่งในปี 2555 ที่จะถึงนี้ ไออาร์ดีเอจะมีทั้งสวนสนุกเลโก้แลนด์ พรีเมี่ยมเอาท์เล็ท สินค้าแบรนด์ เนมแบบเดียวกับพรีเมี่ยมเอาท์เล็ทที่อเมริกา โรงเรียนนานาชาติชั้นนา มหาวิทยาลัยการแพทย์ ศูนย์ ไอที-ซอร์ฟต์แวร์ปาร์ค สนามบิน ท่าเรือ เส้นทางคมนาคมที่สะดวก และเขตนิคมอุตสาหกรรมไม่ว่าจะ เป็นสินค้านวัตกรรม หรือธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ นอกจากนี้การให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี การค้าและ การลงทุนจะทาให้สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติจากทั่วโลก และนาเม็ดเงินมหาศาลให้จะมากระจุก อยู่ทไี่ ออาร์ดีเอ ไม่เพียงแค่เราจะอิจฉาหรือว่ารอชื่นชมความสาเร็จของมาเลเซีย เท่านั้น แต่ควรหันกลับมา มองและวิเคราะห์ ป ระเทศไทยของเรา ทั้งๆ ที่เมื่อสั ก 10 ปีก่อนเราก็เคยมีโครงการเมกะโปร์เจ็ค มากมาย สุดท้ายก็มาสะดุดวิฤติการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเมื่อปี 2549 ซึ่งก็เป็นที่รับรู้และเข้าใจ กันดีทุกฝ่ายอยู่แล้วว่าเรื่องของเสถียรภาพของรัฐบาลและการเมืองนั้นมีความสาคัญและส่งผลกระทบ โดยตรงต่อการดาเนินโครงการเพื่อการพัฒ นาประเทศทุ กโครงการ ความไม่ต่อเนื่องทั้งในแง่ของ นโยบายและงบประมาณทาให้โครงการใหญ่ๆ ของประเทศไทยต้องพับหรือชะงักไป หน่วยงานภายใต้ กระทรวงที่มีมากมายหลายหน่วยงานมีภารกิจที่ทับซ้อนและซ้าซ้อนกันอยู่
อย่างไรก็ตาม อดีตคือบทเรียนที่มีค่า ให้เรานาเอาสิ่งนั้นมาใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญญาใน ปัจจุบัน รวมทั้งวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อดาเนินนโยบายในอนาคต และจะต้องทาให้ดีที่สุด ถ้าเราเดิน ตามประเทศอื่ น แล้ ว ดู เ หมื อ นช้ า เกิ น ไปก็ ค วรจะวิ่ ง บ้ า ง แต่ ก็ ต้ อ งไม่ รี บ ร้ อ นรนรานจนงานล่ ม ภาคเอกชนทั้งวิสากิจขนาดเล็ก วิสากิจขนาดกลาง หรือแม้แต่วิสากิจขนาดรายใหญ่พร้อมที่จะให้การ สนับสนุนและร่วมมือกับรัฐบาล การทางานอย่างมีเครือข่ายจะช่วยผลักดันให้สภาวะทางเศรษฐกิจ ของไทยกลับมาเจริญเติบโตและแข็งแกร่งอีกครั้ง ในเวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและในเวทีโลก ได้แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภายหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปของไทยปี 2554 นี้การเมืองไทยจะ สดใส ความปรองดองอย่างแท้จริงกลับคืนมาสู่สังคมแห่งนี้อีกครั้ง เศรษฐกิจที่ซบเซามาเป็นเวลานาน จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ที่สุดแล้วสังคมแห่งรอยยิ้มและมิตรภาพที่นานาประเทศรู้จักกันในนามสยาม เมืองยิ้ม จะเชื้อเชิญให้ชาวต่างชาติทุกคนกลับ มาเที่ยวเมืองไทย กลับมาทาการค้า กลับเข้ามาลงทุน ความเชื่อมั่นในสายตาของชาวต่างชาติจะกลับมาเหมือนเดิม อันจะทาให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางของ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างแท้จริง ต่อไป
เขียนโดย จักรสิทธิ์ แก้ววิไล มิถุนายน 2554 สานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนากดลางและขนาดย่อม (สสว.)
